[Fic: TMI] My little bunny
ในเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่หนีหน้า แม็กนัสคงจะต้องเปลี่ยนวิธีให้กระต่ายน้อยขี้อายอย่างอเล็กเป็นฝ่ายกระโดดเข้าหาเขาแทนเสียแล้ว
ผู้เข้าชมรวม
998
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
Title : My little bunny
Pairing : Magnus X Alec
Author : BloodySnow
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แม็กนัสกำลังรู้สึกหงุดหงิดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างสูงราวกับนายแบบกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยความเซ็งในอารมณ์ ทั้งๆ ที่เช้าวันเสาร์อันสดใสอย่างวันนี้ เค้าควรจะได้ตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นแฟนของเขาในอ้อมกอดเป็นคนแรกสิ! แต่นี่มันอะไรกัน ทั้งๆ ที่ทั้งสองคนตกลงปลงใจกัน? ที่จะเลื่อนขั้นความสัมพันธ์มาเป็นคนรักกันแล้วในที่สุดอย่างเป็นทางการโดยที่พ่อและแม่ของอเล็กก็รับรู้แล้ว ทว่าอีกฝ่ายกลับพยายามหลบหน้าเขามากขึ้นกว่าตอนที่คบกันอย่างลับๆ เสียอีก การที่ไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่ายแม้จะเป็นเพียงแค่ระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ แต่ตั้งแต่วันแรกร่างสูงเองก็แทบจะเป็นบ้าแล้ว
ผู้ที่ถูกยกย่องว่าเป็นพ่อมดชั้นสูงแห่งบรู๊คลินอย่างเขาคนนี้ ในอดีตมีคนรักมาแล้วมากมาย แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะรู้สึกว่าตนเองผูกพันกับอีกฝ่ายมากขนาดนี้ เพราะ ดวงตาสีฟ้าอันใสซื่อคู่นั้นที่ทำให้เขาหลงอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเห็น และเมื่อพบว่าอีกฝ่ายเองก็เหมือนกับจะมีใจให้เช่นกัน วินาทีนั้นมันทำให้เขารู้สึกดีใจอย่างที่สุดในชีวิตตลอดหลายร้อยปีที่เขาอยู่มา
นิ้วเรียวยื่นมือออกไปคว้าโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนมาเปิดดู แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นแม้แต่สายเรียกเข้าหรือข้อความใหม่เข้ามาหาเลยสักอันเดียว อเล็กกำลังทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นทุกวันๆ และเขาจะไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายหนีหน้าเขาไปมากกว่านี้อีกแล้ว
คิดได้ดังนั้น แม็กนัสจึงตัดสินใจโทรออกหาคนที่คิดว่าน่าจะช่วยเขาได้มากที่สุดในเรื่องนี้และนัดเจอกันที่ร้านอาหารประจำที่เคยไปกันในตอนเวลาสิบโมงเช้า นั่นหมายความว่าเขาเหลือเวลาในการแต่งตัวอีกหนึ่งชั่วโมง เมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อย ร่างสูงจึงยันตัวลุกขึ้นจากที่นอน ในใจหวังเพียงว่าเขาคงไม่ได้ทำอะไรให้หนุ่มน้อยตาสีฟ้าไม่พอใจ เพราะ สาบานได้ว่า ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเขาทำอะไรผิด!
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แม็กนัสมาถึงที่ร้านอาหารตากิ ที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมถนนไม่ไกลจากที่อยู่ของเขานัก เพราะมาถึงที่ร้านเป็นคนแรกเขาจึงสั่งเครื่องดื่มเย็นๆ มานั่งรออีกฝ่ายก่อน ไม่นานนัก เสียงกระดิ่งที่ประตูหน้าร้อนที่ดังขึ้นทำให้เขาหันหน้าไปมองและพบว่าคนที่เขานั่งรอเดินทางมาถึงแล้ว
“ไง อิซซี่ หวังว่าฉันไม่ได้รบกวนวันหยุดของเธอหรอกนะ” แม็กนัสทักทายอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า และได้การค้อนกลับจากหญิงสาวผู้เป็นนักล่าเงากลับมา ก็แหงล่ะ การเป็นนักล่าเงามันมีวันหยุดเสียที่ไหนล่ะ
“ก็ยังดีกว่าคนที่ถูกแฟนทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียวในวันหยุดล่ะน่า” อิซซี่ยิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อคำพูดของเธอถึงกับทำให้รอยยิ้มเล็กๆ ของแม็กนัสหายวับไปในทันที และ สายตาที่มองตรงมาก็แทบจะทะลุร่างเธอจนพรุนเป็นฟองน้ำก็ว่าได้
“ฉันขอเข้าประเด็นเลยละกัน เธอคงรู้แล้วสินะว่าฉันนัดมาเพราะเรื่องอะไร” หญิงสาวตรงหน้าพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงเข้าใจในประโยคนั้นก่อนจะเท้าแขนกับโต๊ะและยื่นหน้าเข้าใกล้ร่างตรงข้ามด้วยสีหน้าอยากรู้อยากเห็นราวกับเด็ก ซึ่งนั่นก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่แม็กนัสคิดว่าเธอเองคงจะไม่รู้ตัวว่าเธอมีอยู่ …แต่ก็ใช่ว่าเธอจะคิดว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์หรอกนะ
“แล้วไปทำอะไรท่าไหนล่ะ พี่ชายฉันถึงได้กลับมาค้างที่สถาบันตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว ปกติวันหยุดแบบนี้ทีไร ไม่ใช่ว่าจะต้องไปค้างกันที่อพาร์ทเมนต์นายไม่ใช่เหรอ”
“ถ้าฉันรู้ ฉันจะโทรเรียกเธอมาที่นี่ทำไมกัน?!” แม็กนัสกัดฟันพูดด้วยความหงุดหงิดใจ
“แน่ใจเหรอว่าไม่มีอะไร อย่าใช้มาตรฐานคำว่า ‘ไม่มีอะไร’ ของนายมาเทียบกับของพี่ชายฉันเด็ดขาดเลยนะ เรื่องธรรมดาสำหรับนายมันอาจเป็นเรื่องใหญ่สำหรับอเล็กก็ได้ ลองคิดดูดีๆ สิว่าวันนั้นทำอะไรกันบ้าง เล่ามาให้ละเอียดเลยนะ แล้วฉันจะบอกเองว่านายทำผิดพลาดตรงไหน”
สายตาราวกับนางพญาที่กุมอำนาจอันยิ่งใหญ่ไว้ในมือ ทำให้แม็กนัสต้องตัวสั่นขึ้นมาแวบหนึ่ง ให้ตายสิ เขาชักจะไม่แน่ใจแล้วสิว่าคนตรงหน้าเป็นน้องสาวของอเล็กได้ยังไง ทั้งๆ ที่นิสัยมันต่างกันคนละขั้วได้ขนาดนี้ แต่ก็อีกนั่นแหละ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ก็ในเมื่อมันไม่มีอะไรจริงๆ
“ศุกร์ที่แล้วอเล็กก็มาหาฉันที่บ้านตามปกติ มาตอนประมาณบ่ายสามโมงเย็นได้ เห็นว่าพึ่งเสร็จภารกิจมา ก็เหมือนเดิมกับทุกครั้ง ฉันก็นั่งรออเล็กอาบน้ำอยู่ที่โซฟา ดูรายการทีวีโปรดอยู่ พอเขาอาบน้ำเสร็จก็มานั่งดูด้วยกัน แต่ไม่รู้ว่าทำไม อยู่ดีๆ เขาก็ลุกออกจากโซฟา สีหน้าดูตื่นๆ แล้วก็รีบวิ่งออกไปเลย ส่วนเรื่องหลังจากนั้นเธอก็น่าจะรู้ดีกว่าฉันนะ” แม็กนัสตบท้ายด้วยน้ำเสียงประชดประชัน สายตาหรี่ลงเป็นนัยว่าเขาต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้ว่าทำไม?และเพราะอะไร? อเล็กถึงได้วิ่งหนีเขาไปแบบนั้น
ไร้เสียงใดๆ จากหญิงสาวที่นั่งตรงกันข้ามกับเขา ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะหยิบน้ำมะนาวที่เธอสั่งไว้ตอนแม็กนัสเล่าเรื่องขึ้นมาจิบด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“อย่างแรกนะ คุณพ่อมดชั้นสูงแห่งบรู๊คลิน” อิซซี่เริ่มต้นประโยคด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เขารู้สึกว่ากำลังโดนเสียดสีอยู่กลายๆ มากกว่าคำชมกับการเน้นย้ำคำนั้นในประโยค “ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยว่า ‘นั่งดูทีวี’ ของนายเนี่ยนายทำอะไรไปบ้าง”
“มีคำไหนของการนั่งดูทีวีที่เธอไม่เข้- …” แม็กนัสที่กำลังจะสวนกลับหุบปากสนิททันทีที่ภาพความทรงจำในเวลานั้นแวบเข้ามาในสมอง และจากท่าทีครุ่นคิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทำให้อิซซี่เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
“จริงๆ แล้ว ฉันก็แค่… โอบเอวเขาไว้เฉยๆ เองนะ” ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจนัก แต่มากกว่า 90% เขามั่นใจว่าสิ่งที่เขาทำไปมันคือการโอบเอวจริงๆ
“โอบเอว? อย่างเดียวเหรอ?” สาวน้อยที่วางท่าราวกับหญิงมากประสบการณ์เลิกคิ้วขึ้นสูงเป็นนัยว่าเธอไม่เชื่อสิ่งที่คนตรงหน้าพูดมาสักนิด
“สาบานได้ว่าฉันแค่โอบเอวจริงๆ แต่ก็…มีลูบๆ บ้างนิดหน่อย” ให้ตายสิ ลองได้สัมผัสผิวอันอ่อนนุ่มแบบนั้นแล้ว เค้าจะอดใจไหวได้ยังไงกัน!
“ข้างในหรือข้างนอกเสื้อ?” อิซซี่รุกถามต่อด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดราวกับว่านี่แหละคือประเด็นที่ทำให้เกิดเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้น
“…”
“แม็กนัส เบน”
“ข้างใน…” แม็กนัสตอบน้ำเสียงงุนงง ไม่เข้าใจว่ามันเป็นเรื่องผิดปกติตรงไหน
“พนันได้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่นายลูบข้างในเสื้อสินะ”
“เธอรู้ได้ยังไง…”
หญิงสาวยักไหล่ด้วยท่าทีที่ทำให้แม็กนัสรู้สึกฉุนกึกราวกับว่านี่เป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้กันทั้งนั้นแม้แต่เด็กไม่ถึงสิบขวบ
“แม็กนัส เบนนน นี่นายไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นโง่กันแน่ฮะ นายไม่รู้หรือไงว่าพี่ชายฉัน ‘รักนวลสงวนตัว’ ขนาดไหน” อิซซี่หัวเราะเบาๆ กับประโยคที่พึ่งพูดออกไปอย่างห้ามไม่อยู่ ก็นะมีพี่ชายที่แสนจะน่ารักขนาดนี้
“แล้ว…เขาเป็นยังไงบ้าง”
“ก็ถ้าไม่นับว่าตอนกลับมาหน้าแดงเป็นมะเขือเทศแล้วล่ะก็ ถือว่าปกติดีทุกอย่างแหละ”
“บ้าเอ๊ย…” แม็กนัสสบถออกมาด้วยความรู้สึกโมโห…โมโหตัวเองที่ลืมเรื่องสำคัญเรื่องนี้ไปเสียสนิท ลืมไปว่าเจ้าของดวงตาสีฟ้านั้นเปราะบางแค่ไหน เพราะ กว่าที่ร่างบางจะยอมมาค้างที่อพาร์ทเมนต์เขาได้ในครั้งแรก ร่างบางแทบจะตัวแข็งเกร็งไม่กล้าขยับไปไหนและไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขาด้วย…อันที่จริง อเล็กก็ไม่ค่อยจะสบตาเขาเท่าไหร่อยู่แล้วนี่นะ
“ฉันควรจะทำยังไงดี” พ่อมดชั้นสูงแห่งบรู๊คลินรู้สึกว่าตนเองกำลังเจอทางตัน เขาไม่เคยผูกสัมพันธ์กับคนที่มีนิสัยแบบอเล็กมาก่อน มั่นใจว่าสิ่งที่เขาเคยทำผ่านๆ มากับคนรักคนก่อนๆ ต้องถูกเอาไปทิ้งไว้ที่ทะเลแสนไกลโพ้นให้มันจมลึกสู่จุดที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรเพราะมันคงเป็นเหมือนของต้องห้ามสำหรับการนำมาใช้กับอเล็ก
ริมฝีปากบางของหญิงสาวขยับยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เมื่อมีความคิดอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาในสมองที่ปกติก็คอยแต่จะคิดแผนการอะไรแบบนี้อยู่แล้วเพื่อจับคู่ให้กับพี่ชายตัวเอง
“รู้รึเปล่าว่าการเป็นนักล่าไม่จำเป็นต้องคนที่วิ่งเข้าหาเหยื่อเสมอไป บางทีคนที่เป็นนักล่าก็สามารถทำให้เหยื่อวิ่งเข้ามาหาตัวเองได้เหมือนกันนะ”
“เธอจะให้ฉันถือธนูรอ แล้วซุ่มรออเล็กตอนที่เผลอไม่ระวังตัว แล้วยิงทะลุหัวใจเหมือนคิวปิดรึไง” ผู้เป็นพ่อมดกลอกตาใส่ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงระอาใจกับแผนการแปลกๆ ของผู้เป็นน้องสาวของแฟนตัวเอง และสิ่งที่ตามมาคือ เกือบโดนน้ำแข็งสาดใส่หน้า ถ้าเขาไม่ยกมือเป็นเชิงยอมแพ้เสียก่อน
“ฉันหมายความว่า นายควรเป็นฝ่ายรอให้พี่ฉันเข้าหาบ้างต่างหาก นี่ ฟังให้ดีนะ นายควรใช้วิธีสุภาพบุรุษเข้าหามากกว่ามาดเพลย์บอยคอยแต่จะจ้องฉวยโอกาส…ไม่ต้องเถียง ในสายตาของอเล็กมองนายแบบนี้แน่ๆ เพราะงั้น สิ่งที่ต้องทำ คือ ส่งข้อความทักทายบ้าง คิดถึงบ้าง อะไรเทือกนั้น ที่มันโรแมนติกๆ หน่อยน่ะ ทำเป็นใช่มั้ย แล้วก็โผล่มาที่สถาบันบ้างก็ได้นะ พ่อกับแม่ไม่ว่าหรอก ฉันจัดการเอง นายก็แค่ทำทีเป็นว่าคิดถึงเลยมาหา แต่ห้ามทำอะไรเกินกว่านั้นเชียว ทำแบบนี้สักอาทิตย์ สองอาทิตย์ รับรอง…” หญิงสาวดีดนิ้วหนึ่งทีเป็นนัยว่าแผนนี้สำเร็จแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์แบบไม่ต้องสงสัย แต่ถึงอย่างนั้น…
“เธอจะให้ฉันเข้าใกล้อเล็กซานเตอร์โดยไม่ทำอะไรเลยเนี่ยนะ!” ผู้เป็นพ่อมดขึ้นเสียงสูงใส่หญิงสาวตรงหน้าโดยไม่สนใจสายตาหลายคู่ของลูกค้าในร้านที่เริ่มหันมามอง
"ตกลงนายอยากให้ฉันช่วยรึเปล่า ถ้าอยากก็ทำตามซะ อย่าเถียงให้มากความ เอาเป็นว่าเราเริ่มวันพรุ่งนี้กันเลยก็แล้วกัน แล้วคืนนี้ฉันจะส่งข้อความไปบอกแผนการนะ" ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มส่องประกายความตื่นเต้นอย่างชัดเจนก่อนที่หญิงสาวจะขอตัวกลับบ้านไม่วายให้พ่อมดตรงหน้าออกค่าเครื่องดื่มในครั้งนี้เป็นการตอบแทน
แม็กนัสถอนหายใจเฮือกใหญ่ตามหลังเสียงปิดประตูเมื่อน้องสาวของผู้เป็นที่รักเดินจากไป นิ้วเรียวยาวทั้งห้าจับหลอดยาวสีขาวในแก้วน้ำตรงหน้าคนไปมาอย่างเหม่อลอย อายุปูนนี้แล้วเขายังต้องมานั่งกลุ้มใจกับปัญหาพรรค์นี้อีกหรือเนี่ย?!
'ไม่สิ...เพราะว่าเป็นอเล็คซานเดอร์ต่างหาก' หัวใจในอกเต้นระรัวยามเมื่อนึกถึงใบหน้าของนามที่เขาพึ่งนึกถึง ไม่ลองดูก็ไม่รู้ เขาไม่เคยคบคนอย่างอเล็กมาก่อน พูดให้ถูกไม่เคยคบกับนักล่าเงาอย่างจริงจังมาก่อนในชีวิตหลายร้อยปีที่ผ่านมา ประสบการณ์แทบจะติดลบ สงสัยว่าหนทางเดียวคงต้องทำตามที่อิซซี่บอกจริงๆ
"เฮ้อ...กลับบ้านไปรอฟังแผนการละกันเรา"
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
โทรศัพท์มือถือบนหัวโต๊ะข้างเตียงนอนของแม็กนัสสั่นครืดยามเมื่อมีข้อความส่งมา ปลุกให้ผู้ที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงนุ่มใต้ผ้าห่มผืนหนาลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงียพลางใช้มือควานหามือถือของตนโดยไม่ได้หันไปมอง หน้าจอสี่เหลี่ยมขึ้นเป็นรูปซองจดหมายพร้อมกับชื่อผู้ที่ส่งมาว่า 'IZZY' ส่งผลให้ร่างสูงกระเด้งตัวขึ้นมาในทันที ก่อนจะหันไปมองดูนาฬิกาที่ผนังห้อง เข็มยาวและเข็มสั้นบนหน้าปัดนาฬิกาชี้บอกเวลาอยู่ที่ประมาณห้าโมงเย็น
นิ้วยาวกดอ่านข้อความด้วยความว่องไวได้ใจความว่าอิซซี่ต้องการให้เขาส่งข้อความไปหาอเล็กว่าพรุ่งนี้เช้าเขาอาจไปพบที่สถาบัน โดยที่อิซซี่จะจัดเตรียมบ้านให้พร้อมเองทั้งในแง่ของ 'สถานที่' และ 'บุคคล' แต่ที่สะกิดใจมากที่สุดคือข้อความบรรทัดสุดท้ายที่แนบมาต่างหาก
'สำคัญมาก : ฉันเชื่อมั่นว่าอายุหลายร้อยปีของนายน่าจะมีประโยชน์อะไรบ้างนะ กรุณาส่งข้อความที่สั้น กระชับ ได้ใจความ และแสดงออกถึงความเสียใจและคิดถึง ทำเป็นใช่มั้ย? ห้ามส่งข้อความงอแงเป็นเด็กๆ ไปล่ะ :P'
คิ้วสวยกระตุกเล็กๆ เมื่อเจอคำจิกกัดในข้อความ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก ก่อนจะเปิดเมนูเขียนข้อความใหม่ขึ้นมาด้วยความคล่องแคล่ว
'ถึง อเล็คซานเดอร์
พรุ่งนี้นายว่างรึเปล่า ฉันขอไปพบนายที่สถาบันได้มั้ย คราวก่อนที่นายวิ่งหนีกลับไป ฉันคงทำอะไรผิดอีกแล้วสินะ ให้โอกาสฉันได้แก้ตัวเถอะ'
แม็กนัสอ่านทวนข้อความด้วยความพอใจก่อนจะตัดสินใจส่ง แต่ก็หยุดชะงักไปเมื่อความคิดบางอย่างแล่นผ่านเข้ามาในหัว ตัวอักษรที่พิมพ์ไว้เมื่อครู่ถูกลบเกลี้ยง ก่อนที่ข้อความใหม่จะถูกพิมพ์ขึ้นอย่างรวดเร็ว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
"อเล็ก ช่วงนี้ลูกดูไม่ค่อยสดชื่นเลยนะ มีปัญหาอะไรรึเปล่า" มาริส ผู้เป็นแม่เอ่ยปากถามขณะที่ครอบครัวไลต์วู้ดกำลังรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน พร้อมกับที่จุดสนใจของสายตาทุกคู่เปลี่ยนเป้าจากอาหารตรงหน้าเป็นสมาชิกคนโตของบ้านที่กำลังเขี่ยผักสลัดในจานอย่างเหม่อลอย
"ปะ...เปล่าครับ ผมแค่...ไม่ค่อยอยากอาหาร" อเล็กตอบผู้เป็นแม่ก่อนจะจิ้มมะเขือเทศเข้าปาก บ่งบอกกลายๆ ว่าเขาไม่ต้องการตอบอะไรเพิ่มเติม ก่อนที่เปลวไฟสีแดงจะลุกวาบขึ้นตรงหน้าพร้อมกับมีกระดาษแผ่นหนึ่งร่วงแหมะลงมาตรงหน้าตัก
"...จดหมายจากใครน่ะ" เจซที่นั่งอยู่ข้างอเล็กหันมองด้วยความสนใจใคร่รู้ แทบจะฉกจดหมายนั้นมาอ่านเองหากอเล็กไม่ได้หันมองเขาด้วยสายตาเขียวปัดตอนที่เขาพยายามจะยื่นมือเข้าไปหยิบมา
ตาสีฟ้าใสกวาดมองจดหมายที่ได้รับ ใบหน้าขาวซีดเปลี่ยนเป็นสีแดงสดราวกับมะเขือเทศที่เขาพึ่งกินเข้าไป
ผลงานอื่นๆ ของ Bloody Snow ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Bloody Snow
ความคิดเห็น